• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นสาเหตุ ? รักษาได้อย่างไร ?

Started by PostDD, January 07, 2023, 06:35:59 PM

Previous topic - Next topic

PostDD

ตับมีปัญหา จะต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกที เพราะถ้าหากปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบกระทั่งเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง รวมทั้งโรคมะเร็งตับได้เหมือนกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อเสียง กล่าวย้ำเตือนถึงความสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าเกิดคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และเมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนกลับมาดังเดิมได้" แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตับกำลังเจอปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? รวมทั้งควรดูแลบำรุงอย่างไร..? เนื้อหานี้มีคำตอบให้ท่าน  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นราวกับศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บผลิตภัณฑ์ (กักเก็บสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งยังโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด อื่นๆอีกมากมาย) และยังเป็นโรงงานดัดแปลง (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะใช้ประโยชน์เป็นพลังงาน) หากร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เหมือนตายทั้งเป็น คำพูดที่ว่าตับเป็นเหมือนหัวใจดวงลำดับที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการผลิต
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็ง อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ปฏิบัติหน้าที่ เป็นส่วนประกอบของเลือด ดังเช่น อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารรวมทั้งเกลือแร่เอาไว้ภายในเส้นเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยเผาผลาญไขมัน รวมถึงมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารจำพวกไขมัน และก็ถึงสารตั้งต้นของฮอร์โมนบางชนิด
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินแล้วก็เกลือแร่บางชนิดที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยแปรรูป อาหารรวมทั้งยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองพิษในเลือด
- ขับของเสียออกมาจากร่างกายในรูปแบบปัสสาวะ หรือถ่ายมากับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องประสบปัญหาเสื่อมโทรมสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุอีกทั้งจากเชื้อไวรัส หรือโรคจากพันธุกรรมตั้งแต่กำเนิด แต่ว่าหลักๆที่ทำให้คนส่วนมากมีการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีต้นเหตุมาจากพฤติกรรมทำร้ายตับเป็นต้นว่า
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบกินอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานมาก มีความเคร่งเครียด
4.ชอบนอนมืดค่ำ ตื่นสาย
5.รับประทานยาหรืออาหารเสริมมากจนเกินไป
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นระยะเวลานาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารเช้า
9.ชอบรับประทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
10.ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลพวกนี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมทุกวันซึ่งเราอาจจะเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเจอ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานมาก 1 วันแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในแต่ละวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองพิจารณาอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา อาทิเช่น มีอาการเหน็ดเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย , มีปัญหาสำหรับการนอน , ท้องอืดเสมอๆ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความอยากอาหารน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต เป็นต้นถ้าหากคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวแล้วยังไม่สนใจกลับมาดูแลตับอีก.. รู้ตัวอีกทีความน่าสะพรึงกลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดก็ในขั้นรุนแรงอย่างตอนเป็นโรคตับแข็ง หรือมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การรักษาตับพื้นฐาน
"ตับ" เป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ โดยทางทฤษฎีแม้เราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ฉะนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับแบบไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตนเองได้ แต่ว่าไม่ได้แปลว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเย็นชาให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ เพราะว่าแม้ตับอักเสบบ่อยๆจนเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้นตัว ยิ่งโรคมะเร็งยิ่งไม่ต้องพูดถึง.. สิ่งสำคัญที่สุดคือ การตั้งใจบำรุงตับเพื่อป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในภายหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรจะเริ่มปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงเพิ่มมากขึ้น
(1) ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร
ลดอาหารไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดปริมาณไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
เลี่ยงของหวาน เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นแล้วก็รสชาติแทนน้ำตาลแล้วก็ผงชูรส
รับประทานอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดการเสี่ยงสำหรับการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
ออกกำลังกายให้ได้ 150 นาที/อาทิตย์ (หรืออย่างต่ำ 60 นาที/อาทิตย์)
ระหว่างทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือเปลี่ยนแปลงอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกหัดการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปกำจัดของเสียในเลือด รวมทั้งก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) เลี่ยงการรับยาเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่อาจจะเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ให้ลดลงที่สุด
หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือรอบๆที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี รอบๆที่มีฝุ่นควัน มลพิษหนาแน่นหากปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิม เพิ่มเติมเป็นถ้าหากคิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราบางทีอาจทำได้ยาก ลองมาดูเคล็ดลับน่าสนใจ ที่สามารถจะช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ดลับ(ไม่)ลับน่าสนใจ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องกิน..เรื่องใหญ่" ของกินที่เรารับเข้าไปในทุกวันก็ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ให้แก่ตับได้เช่นเดียวกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดีขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรารับประทานอะไรลงไป.. แล้วก็นี่คือ 3 ตัวช่วยน่าสนใจซึ่งสามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเห็นได้ตามท้องตลาดทั่วไป เปิดตู้แช่เย็นเราก็เจอ แม้กระนั้นเครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้ซ่อนเร้นไปด้วยสรรพคุณที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ และป้องกันตับจากสารพิษ รวมทั้ง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่งานวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยสำหรับในการลดไขมันในผู้ที่มีสภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
ถึงแม้ชื่อจะไม่ชินหูคนอีกหลายๆคน แต่ว่ามันคือสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ รวมทั้งลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์คือ กรดโอลีโนลิกแล้วก็กรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมถึงสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งทำให้ตับมีร่างกายแข็งแรง ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวนับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นเยี่ยม โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการศึกษาค้นคว้าว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆในร่างกาย ทั้งพบว่า คนที่ดื่มชาเขียวจำนวน 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย และยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆตลอดทั้งวันยังช่วยดีท็อกซ์ชำระล้างสารพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมกระทั่งโรคร้ายอาจถามหาโดยไม่รู้ตัว เมื่อจะต้องใช้ชีวิตและมีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นสิ่งสำคัญซึ่งสามารถป้องกันแล้วก็ลดความเสี่ยงในการเป็น โรคตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับ โรคยอดฮิตที่เอาชีวิตคนประเทศไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" สุขภาพที่แข็งแรงเราสร้างขึ้นเองได้.. โดยหากสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับต้องการขอความเห็นผู้เชี่ยวชาญ ขอรับคำปรึกษาปัญหาสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage และก็ Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญและเภสัชกรพร้อมให้คำแนะนำคุณในตลอดเวลา