🦖🦖ความสำคัญของการเจาะสำรวจดิน & ระยะห่างของจุดเจาะสำรวจ⚡👉📢

[Fern751]

🛒👉📌การเจาะสำรวจดิน (Soil Investigation)🦖 นับได้ว่ามีความสำคัญในงานวางแผนโครงการก่อสร้างอาคาร⚡ สาธารณูปโภคต่าง ๆ🦖 ตั้งแต่การซื้อที่ดินสำหรับโครงการ📢 งานออกแบบทั้งในขั้นต้น และในขั้นรายละเอียด (Detailed Design)🦖 ซึ่งในปัจจุบันการเจาะสำรวจดินมีความจำเป็นในงานออกแบบทั่วไป🌏 จะพบว่ามีข้อกำหนดรายละเอียด (Specification) งานเจาะสำรวจทั้งงานภาคเอกชน และหน่วยงานของรัฐก่อนการออกแบบ และก่อสร้างแทบทุกโครงการ👉 โดยเฉพาะภาครัฐที่ตระหนักถึงความถูกต้อง🥇 ความปลอดภัยงานที่ออกแบบ และเป็นการออกแบบที่ประหยัด✨ ประกอบกับได้มีการพัฒนากฎหมาย และองค์กรต่าง ๆ ควบคู่กันไป เช่น คณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม (กว.)📌 สภาวิศวกร🛒 สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยที่ได้เป็นการกระตุ้นให้มีการปฏิบัติการเจาะสำรวจดินมากขึ้น✨ โดยรวมได้มีความตระหนักถึงความจำเป็นในการเจาะสำรวจดินก่อนออกแบบโครงการมากขึ้น ซึ่งเป็นการถูกต้องตามระบบสากลนานาประเทศ⚡ โดยเฉพาะประเทศตะวันตกที่ได้มีการกำหนดการเจาะสำรวจดินเป็นมาตรฐานมากกว่า 50 ปีแล้ว✅ เป็นที่น่ายินดีที่ประเทศไทยในที่สุดก็ได้พัฒนามาถึงจุดนี้



👉📌📌การเจาะสำรวจที่สมบูรณ์ต้องมีความรู้และเข้าใจข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการออกแบบ✅ วิธีการที่เหมาะสม🦖 ใช้เครื่องมือ เครื่องจักรที่ถูกต้อง⚡ กำหนดปริมาณการเจาะสำรวจที่เพียงพอ🌏 ใช้เทคนิคตามมาตรฐานสากล📌 ทดสอบค่าคงตัวของดินครอบคลุมการออกแบบ📌 จนกระทั่งในที่สุดจัดทำรายงานผลการเจาะสำรวจที่สมบูรณ์🛒 เพื่อนำเสนอแก่ผู้เกี่ยวข้องและผู้ออกแบบ✨ การเจาะสำรวจดินเป็นเรื่องละเอียดอ่อน👉 มีหลายองค์ประกอบ🛒 โดยเฉพาะดินเป็นวัสดุธรรมชาติที่ไม่มีความสม่ำเสมอเหมือนเช่นวัสดุอุตสาหกรรม🥇 เป็นหน้าที่ของวิศวกรผู้เจาะสำรวจในการดูแลดำเนินการให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเพื่อการออกแบบที่ปลอดภัยและประหยัด👉

🎯🎯🎯ระยะห่างของหลุมเจาะ📢👉👉👉

🌏🌏🎯หากยังไม่มีผังอาคารที่แน่นอนในพื้นที่โครงการก่อนเจาะสำรวจดิน📢 และโครงการมีพื้นที่ขนาดใหญ่📢 เพื่อความประหยัดและมีประสิทธิภาพ✨อาจจะกำหนดหลุมเจาะเป็นตาราง (Grid)🦖 มีระยะห่างที่เหมาะสมและเท่ากัน เช่น 20-40 เมตร👉 เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่จะเสียค่าใช้จ่ายเจาะหลุมเจาะที่ไม่มีอาคารก่อสร้างในจุดนั้น ๆ📢 ในขั้นนี้ควรลดค่าใช้จ่ายโดยการทำเจาะหยั่ง (Probing, Sounding)📌 ซึ่งจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้จำนวนหนึ่ง🎯 เนื่องจากการเจาะหยั่งมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า🎯 แต่ยังได้ข้อมูลโดยรวมของพื้นที่บริเวณ📢 หากในพื้นที่โครงการมีส่วนที่ไม่ปกติ เช่น บ่อน้ำ แนวทางน้ำไหล คูน้ำ หรือคลองเก่า ควรกำหนดหลุมเจาะใกล้จุดนั้นด้วย✅ เพื่อให้ได้ข้อมูลพอเพียง🦖

🌏✅🥇หากไม่มีสิ่งกีดขวาง เช่น อาคารเก่า ถนนเข้า หรือบ่อน้ำขัง🎯 จะต้องกำหนดหลุมเจาะใกล้กับตำแหน่งฐานรากอาคารที่จะก่อสร้าง🥇 ซึ่งจะมีความสำคัญมากในกรณีที่ชั้นดินในโครงการมีความไม่สม่ำเสมอ📢 จะต้องกำหนดระดับ (Level) อ้างอิงปากหลุมเจาะให้ชัดเจน🎯 ในกรณีที่มีการสำรวจผังโครงการและทำหมุดอ้างอิง (Reference Benchmark)👉 หรือถ้าเป็นโครงการเล็กที่ไม่ได้ทำการสำรวจพื้นที่โครงการ ก็อาจจะอ้างอิงระดับกับโครงสร้างถาวรภายในโครงการ หรือข้างเคียง เช่น ผิวคอนกรีต หัวตอม่อสะพาน ผิวถนน เป็นต้น🌏 และจะต้องบันทึกข้อมูลในหลุมเจาะว่าเจาะจากผิวดินเดิมหรือผิวดินถม🦖 ซึ่งข้อมูลระดับทั้งหมดจะทำให้สามารถกำหนดความลึกฐานแผ่ หรือความยาวเสาเข็มได้ถูกต้อง🎯 เมื่อมีการปรับพื้นบริเวณโครงการ เช่น หลังการตัด (Cut) หรือถม (Fill)👉

[Chigaru]

ขอบคุณครับ

[Jenny937]

น่าสนใจครับ

[Cindy700]

เข้าใจแล้วครับ